Last updated: 18 ต.ค. 2566 | 349 จำนวนผู้เข้าชม |
วันนี้ผมจะมาแนะนำการดูแลเบาะหนังและวิธีการทำความสะอาดที่ถูกวิธี ปลอดภัย ตามแบบฉบับที่ CarCare ใช้กัน พร้อมกับน้ำยา อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรมี และทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆเลยครับ ไปเริ่มกันเลย
แยกประเภทของเบาะหนัง
อย่างแรกเราต้องแยกประเภทของเบาะหนังก่อนนะครับ เพราะรถยนต์หลายๆยี่ห้อมักใช้วัสดุหนังแตกต่างกัน เพื่อให้รู้ถึงข้อดี ข้อเสียของวัสดุหนังแต่ละประเภทก่อน เราจะได้ระมัดระวัง พร้อมทำตามขั้นตอนได้อย่างปลอดภัยต่อวัสดุหนังในประเภทนั้นๆ ครับ
เบาะหนังเทียมเนื้อ PVC
ผลิตจากเนื้อพลาสติก Polyvinly Chloride (โพลีไวนิล คลอไรด์) ที่ผ่านการฟอกย้อมและตัดเย็บให้เข้ากับใยผ้า มีสารเคลือบผิวที่หนา ทำให้มีความคงทนไม่ทำให้ขาดง่าย เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความกระด้าง ไม่นุ่ม ถ้าหนังเสื่อมสภาพ จะแข็งมากกว่าเดิม
** วิธีดูให้ใช้นิ้วกดลงไปที่เบาะ เบาะจะยุบเป็นวงกลม ไม่มีรอยเหี่ยวย่น ผิวสัมผัสจะตึงและแข็งกระด้าง
เบาะหนังเทียมเนื้อ PU
ผลิตจากวัสดุ Polyurethane (โพลียูรีเทน) ด้วยวิธีการสังเคราะห์ มีสารเคลือบผิวบางๆ ทำให้พื้นผิวอ่อนนุ่มคล้ายกับหนังแท้ มีความคงทนต่อความร้อน มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหนังแบบ PVC อีกทั้งหนังชนิดนี้ สามารถปั๊มลวดลายเลียนแบบหนังแท้ได้ตามความต้องการ เบาะชนิดนี้ดูแลจะรักษาง่าย แค่หลีกเลี่ยงความร้อนจากแสงแดดจัดๆ มักเป็นที่นิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์
** วิธีดูให้ใช้นิ้วกดลงไปที่เบาะ จะสัมผัสได้ถึงความหนา แต่มีความยืดหยุ่นเป็นริ้วคลื่นของหนัง เห็นได้อย่างชัดเจน
เบาะหนังแท้
ส่วนมากจะพบในรถยนต์ประเภทรถหรูหรือรถคลาสสิก มักจะเรียกว่าหนัง Nappa ที่ผ่านกระบวนการฟอกและย้อมสี จึงทำให้หนังนุ่ม มีกลิ่นหนังอ่อนๆ สีสันสวยงาม และมีความทนทานเป็นพิเศษ เพราะหนังแท้จะมีความยืดหยุ่นสูงจากความชุ่มชื้นของไขมันสัตว์
** วิธีดูให้ใช้นิ้วกดลงไปที่เบาะ จะสัมผัสได้ถึงความบาง มีความนุ่มนวล สัมผัสลื่น ไม่สากมือ เป็นรอยย่นคล้ายกับผิวคน เมื่อนั่งจะรู้สึกนุ่มสบาย
เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มทำความสะอาด
อย่างแรกเราต้องดูดฝุ่นตามซอกต่างๆ พร้อมใช้แปรง Detailing Brush ขนนุ่มแปรงฝุ่นตามร่องเบาะ รอยพับ ออกก่อนนะครับ รวมถึงดูดฝุ่นเศษดินที่แผ่นรองเท้าและพรม เพื่อป้องกันไม่ให้ปลิวไปเกาะผิวเบาะในขณะที่เราทำความสะอาดในขั้นตอนต่อไป
หากใครไม่มีเครื่องดูดฝุ่น สามารถใช้แปรง Detailing Brush ขนนุ่มกับผ้าไมโครไฟเบอร์ไร้ขอบ ใช้คู่กับน้ำยา Interior เช็ดเก็บฝุ่นตามซอก และพื้นผิวต่างๆ ได้เลยครับ โดยวิธีการทำให้ฉีดน้ำยา Interior ใส่ผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อไม่ให้น้ำยา Over Spray จนเกินไป จากนั้นไล่เช็ดตามพื้นผิวบริเวณที่มีฝุ่น พร้อมกับใช้แปรงปัดฝุ่นตามซอกเล็กๆที่ผ้าเข้าไม่ถึงครับ
มาเริ่มทำความสะอาดกันเลย
หลังจากที่เราแบ่งประเภทของเบาะหนังแล้ว ทีนี้เรามาทำความสะอาดเบาะหนังของเรากันนะครับ โดยเราจะแบ่งขั้นตอนการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับเบาะหนังแต่ละประเภท
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม - แปรงขนม้าแบบขนนุ่ม , แปรง Detailing Brush ขนนุ่ม , ผ้าไมโครไฟเบอร์ไร้ขอบ , น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ (Refresh)
การทำความสะอาดประเภทหนังเทียม PVC / PU
ในขั้นตอนแรกแนะนำให้ทำทีละชิ้นงานของตัวเบาะนะครับ จะได้มั่นใจว่าเราทำความสะอาดครบทุกชิ้นส่วน เช่น ปีกเบาะ,พนักพิง,หมอนเบาะ
เมื่อเลือกชิ้นงานที่เราต้องการทำความสะอาดได้แล้ว ให้เราฉีดน้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังลงไปที่พื้นผิวได้เลย เน้นฉีดให้ทั่วชิ้นงานนะครับ จากนั้นให้ใช้แปรงขนม้าแบบนุ่ม แปรงไปที่พื้นผิวเป็นแนวตั้งและแนวแนวสลับกันให้ทั่วชิ้นงาน
ในขั้นตอนการแปรงนั้น ให้ใช้น้ำหนักมือกดไม่มากนะครับ เพียงแค่วางแปรงให้พอดีเต็มหน้าแปรงขัดก็พอ เพราะถ้าเราออกแรงกดมากเกินไป อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อหน้าพื้นผิวเบาะหนังได้ครับ เช่น ผิวเบาะมีรอยถลอก ผิวเบาะมีอาการช้ำ เป็นต้น
ส่วนตามซอกเล็กๆหรือตามร่องเบาะ ให้เราใช้แปรง Detailing Brush แปรงทำความสะอาดแทนนะครับ จะทำให้เก็บคราบสกปรกได้ล้ำลึกกว่า
เมื่อเราแปรงทำความสะอาดชิ้นงานจนทั่วหมดแล้ว ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ไร้ขอบเช็ดเก็บคราบสกปรก + คราบน้ำยาทำความสะอาดออก ให้ทำแบบนี้จนครบทั้งเบาะเลยนะครับ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำความสะอาดเบาะหนังเทียมแล้วครับ
การทำความสะอาดประเภทเบาะหนังแท้
ในขั้นตอนแรกแนะนำให้ทำทีละชิ้นงานของตัวเบาะเหมือนเดิมเลยครับ
จะได้มั่นใจว่าเราทำความสะอาดครบทุกชิ้นส่วน
จากนั้นให้ฉีดน้ำยาลงบนแปรงขนม้า แทนการฉีดลงที่ผิวเบาะนะครับ ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมากๆ เพราะว่าถ้าเบาะหนังแท้เปียกน้ำยาทำความสะอาดเยอะเกินไป อาจทำให้เกิดความชื้น ซึ่งเบาะหนังแท้จะมีรูผิวหนังเล็กๆ ทำให้น้ำซึมผ่านได้ และอาจทำให้เกิดกลิ่นอับ เชื้อราในอนาคตได้เช่นกันครับ
เมื่อฉีดน้ำยาทำความสะอาดลงบนแปรงขนม้าแล้ว ให้แปรงไปที่พื้นผิวเป็นแนวตั้งและแนวแนวสลับกันให้ทั่วชิ้นงาน ให้ใช้น้ำหนักมือกดไม่มากนะครับ เพียงแค่วางแปรงให้พอดีเต็มหน้าแปรงขัดก็พอ
ส่วนตามซอกเล็กๆหรือตามร่องเบาะ ให้เราใช้แปรง Detailing Brush แปรงทำความสะอาดแทนนะครับ ให้ฉีดน้ำยาทำความสะอาดที่หัวแปรงแทนการฉีดบนชิ้นงาน
เมื่อเราแปรงทำความสะอาดชิ้นงานจนทั่วหมดแล้ว ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ไร้ขอบเช็ดเก็บคราบสกปรก + คราบน้ำยาทำความสะอาดออก ให้ทำแบบนี้จนครบทั้งเบาะเลยนะครับ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำความสะอาดเบาะหนังเทียมแล้วครับ
Tip & Trick
วิธีสังเกตว่าผิวเบาะหนังเราสกปรกหรือสะอาด ให้สังเกตเมื่อเราทำความสะอาดเสร็จแล้ว ผิวชิ้นงานนั้นจะมีสีออกด้านๆ ซีดๆหน่อยและให้ผิวสัมผัสเดิมครับ ส่วนพื้นผิวที่ดูเงาๆ ดูเลื่อมๆนั้น คือคราบไคล คราบไขมันที่เราใช้งานเป็นประจำสะสมเป็นเวลานาน คราบพวกนี้คือคราบสกปรกที่คอยอุดตันพื้นผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เบาะหนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ลองไปสังเกตกันดูนะครับ
การดูแลและบำรุงรักษาเบาะหนัง
เมื่อเราทำความสะอาดเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือขั้นตอนการเคลือบบำรุงผิวเบาะให้แข็งแรง พร้อมเคลือบป้องกันเพื่อเจอกับสภาวะต่างๆจากการใช้งาน
ซึ่งขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญเช่นกันนะครับ เนื่องจากเราทำความสะอาดเอาคราบสกปรกออกไปแล้ว พื้นผิวเบาะหนังจะมีความ Sensitive มากเป็นพิเศษ เปรียมเสมือนเราเข้าสปาไปขัดผิว เมื่อเราขัดผิวเสร็จแล้ว จะต้องมีการทาครีมหรือเซรั่มเพื่อบำรุงทุกครั้ง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงใช่ไหมครับ กับผิวเบาะหนังบนรถเราก็เหมือนกันเลยครับ เราจึงจำเป็นต้องมีการเคลือบบำรุงหรือเคลือบป้องกันทุกครั้งหลังทำความสะอาด
วิธีการเคลือบบำรุงและป้องกัน ผมแนะนำให้ใช้น้ำยาที่มีการป้องกันรังสี UV และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูใหม่ มีความชุ่มชื้น และให้ผิวสัมผัสเดิมนะครับ โดยฉีดน้ำยาเคลือบบำรุง (UV Protect) ลงบนฟองน้ำ Microfiber Applicator ให้ทั่ว และทาลงบนเบาะหนังที่เราต้องการเคลือบบำรุงได้เลยนะครับ
Tip & Trick
สำหรับใครที่ต้องการให้เบาะหนังที่เคลือบบำรุงแล้ว ให้งานออกมาแบบเงาสวย หลังจากทาน้ำยาเคลือบบำรุงไปแล้ว ให้ปล่อยน้ำยาเซ็ทตัวไว้จนแห้งไปเองได้เลยครับ แต่ถ้าดูแล้วว่าน้ำยาที่ลงเยอะเกินไปก็สามารถใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดน้ำยาส่วนเกินออกได้เช่นกันครับ
ส่วนใครที่ต้องการเคลือบบำรุง แต่ไม่ชอบให้ผิวเบาะเงาเกินไป ชอบเนื้อด้านๆ แนะนำหลังจากทาน้ำยาเคลือบบำรุงไปแล้ว ให้เช็ดเก็บน้ำยาส่วนเกินออกทันที หลังจากลงน้ำยาเคลือบครับ
สรุป
ในการทำความสะอาดและดูแลบำรุงเบาะหนังภายในรถยนต์นั้น ถือเป็นเรื่องที่คนใช้รถไม่ควรมองข้ามเลยนะครับ เพราะเป็นพื้นที่ที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำ จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ยิ่งด้วยสภาวะอากาศในประเทศไทยเป็นอากาศร้อนชื้น มีแดดจัด ส่วนนี้ย่อมเป็นสาเหตุทำให้สภาพเบาะหนังของเรามีอายุการใช้งานสั้นลง ทุกคนลองเอาวิธีนี้ไปปรับใช้ได้เลยนะครับ ส่วนความถี่ในการทำความสะอาดและบำรุงนั้น ผมแนะนำให้ทำความสะอาดทุก 4-5 เดือน/ครั้ง และการคลือบบำรุงผมแนะนำให้ทำทุกเดือน และควรมีน้ำยาสำหรับเช็ดเก็บฝุ่นภายในระหว่างวันด้วยจะดีมากเลยครับ จะทำให้ยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น ลดการสะสมของคราบสกปรกครับ
19 ต.ค. 2566
19 ต.ค. 2566