การเคลือบกระจกถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่มาพร้อมกับความปลอดภัย

Last updated: 18 ต.ค. 2566  |  384 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การเคลือบกระจกถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่มาพร้อมกับความปลอดภัย

การเคลือบกระจกถือเป็นสิ่งสำคัญ
ที่มาพร้อมกับความปลอดภัย


กระจกรถยนต์ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งของรถยนต์ที่มีความสำคัญต่อการขับขี่อย่างมาก เพราะกระจกเป็นส่วนที่ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ หากเราละเลยไม่มีการดูแลกระจกรถยนต์ให้ใสสะอาดอยู่เสมอ อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ เช่น เกิดคราบน้ำสะสมเป็นคราบหินปูน / กระจกเป็นรอยขีดข่วนจากใบปัดน้ำฝน เพราะกระจกมีสิ่งสกปรกทำให้ใบปัดน้ำฝนสะดุด / กระจกขุ่นมัวทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง / มีเศษฝุ่นหรือเศษแมลงติดเป็นจำนวนมาก ทำให้การล้างทำความสะอาดยากขึ้น 

ดังนั้นการเคลือบกระจกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนใช้รถยนต์ไม่ควรมองข้าม นอกเหนือจากการดูแลสีรถเพียงอย่างเดียว เพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการมองเห็น เราจึงควรใส่ใจดูแลกระจกรถยนต์ของเรา ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยในขณะขับขี่รถยนต์ครับ

น้ำยาเคลือบกระจกคืออะไร
น้ำยาเคลือบกระจกเป็นน้ำยาสำหรับทาเคลือบบนพื้นผิวกระจกด้านนอกเท่านั้น ใช้ทาเคลือบกระจกบังลมหน้า กระจกข้าง กระจกหลังหรือกระจกซันรูฟ โดยไม่สามารถทาเคลือบกระจกด้านในได้ และไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันสะเก็ดหินหรือรอยแตกร้าวนะครับ

ซึ่งน้ำยาเคลือบกระจกนั้น จะมีคุณสมบัติในการสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนพื้นผิวกระจก เพื่อป้องกันคราบสกปรก สารเคมี ไม่ให้สัมผัสกับกระจกโดยตรงพร้อมมีคุณสมบัติการไล่น้ำ ลดการเกาะตัวของหยดน้ำ  ทำให้กระจกมีความลื่นและเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น 

ข้อดีของการเคลือบกระจกรถยนต์

  1. ประโยชน์จากการเคลือบกระจกถือว่ามีด้วยกันหลายข้อ แต่ที่ถือเป็นข้อดีเด่นๆ เลย คือป้องกันการเกิดคราบน้ำบนกระจกไม่ให้สะสมเป็นคราบหินปูน เนื่องจากน้ำที่เกาะบนกระจกนั้น เมื่อแห้งละเหยแล้ว จะผันตัวเป็นคราบหินปูนซึมลงเนื้อกระจกได้ หากปล่อยทิ้งไว้นาน ซึ่งอาจทำลายพื้นผิวกระจกรถยนต์ของเราและทำให้การมองเห็นลดลงครับ

  2. ป้องกันไม่ให้น้ำเกาะบนกระจกรถยนต์ ข้อนี้ถือเป็นคุณสมบัติเด่นที่สุดและมีความสำคัญอย่างมาก เมื่อต้องขับรถเวลาฝนตก  เราสามารถสังเกตได้ว่าเม็ดน้ำฝนที่ตกบนกระจกเป็นเม็ดๆ จะวิ่งไหลผ่านกระจกไป ทำให้เราแทบไม่ต้องใช้ใบปัดน้ำฝนขณะขับขี่หรือในกรณีที่ฝนตกหนักมากก็ช่วยลดการใช้ระดับการปัดน้ำฝนน้อยลงครับ นอกจากนี้ยังเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยครับ

  3. ช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วนจากใบปัดน้ำฝน หรือลดรอยขีดข่วนจากการเลื่อนกระจกขึ้น-ลงได้ หลังจากที่เราเคลือบกระจกไปแล้ว ผิวสัมผัสของกระจกจะมีความลื่นมากยิ่งขึ้น ทำให้เวลาเราใช้ใบปัดน้ำฝนหรือเลื่อนกระจกข้างขึ้นลงนั้น จะช่วยลดการเกิดแรงเสียดทานระหว่างกระจกกับใบปัดน้ำฝนหรือยางกันฝุ่นของร่องกระจกข้าง ทำให้การใช้ใบปัดน้ำฝนและการเลื่อนกระจกข้างขึ้นลงมีความสมูทขึ้นครับ

  4. ช่วยลดการเกาะตัวของฝุ่นและคราบแมลงที่ติดบนกระจก ด้วยความที่น้ำยาเคลือบกระจกมีคุณสมบัติให้ความลื่นต่อพื้นผิว ทำให้ฝุ่นผงที่ปลิวมาเกาะบนกระจกมีน้อยลงหรือเกาะตัวได้ยากขึ้น รวมถึงคราบแมลงที่บินมาติดกระจกตอนเราขับรถด้วย นอกจากนี้ยังทำให้การเช็ดทำความสะอาดกระจกของเรานั้น ทำความสะอาดได้ง่ายดายมากขึ้นครับ

 

วิธีการเคลือบกระจกรถยนต์ด้วยตัวเอง
และข้อควรระวัง

การเคลือบกระจกรถยนต์นั้น เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้เองง่ายๆ เลยครับ เพียงแต่ต้องรู้ลำดับขั้นตอนการทำที่ถูกต้องและต้องรู้ข้อควรระวังในการเคลือบกระจก

*** ข้อควรที่ต้องรู้ก่อนลงมือทำ (สำคัญ)
  1. ไม่ควรจอดรถกลางแจ้งที่ไม่มีหลังคา จอดตากแดด หรืออุณหภูมิบนกระจกมีความร้อนอยู่นะครับ (อุณหภูมิอุ่นๆก็ไม่ได้ครับ) เพราะจะทำให้น้ำยาแห้งเซ็ทตัวเร็วเกินไป ทำให้เราเช็ดน้ำยาเคลือบออกไม่ทัน ซึ่งอาจส่งผลให้กระจกรถยนต์ของเราเป็นรอยคราบน้ำยาได้

  2. ไม่ควรลงน้ำยาเคลือบทีเดียวทั้งคันนะครับ แนะนำให้ลงน้ำยาเคลือบกระจกไปทีละบาน เพื่อไม่ให้น้ำยาแห้งติดกระจกจนเกินไป เพราะจะทำให้เช็ดน้ำยาเคลือบออกยากยิ่งขึ้น 

  3. บริเวณกระจกหน้า / กระจกหลัง ให้ทำทีละครึ่งบาน เนื่องจากกระจก 2 ชิ้นนี้มีขนาดที่ใหญ่กว่ากระจกข้าง คนที่ไม่มีความชำนาญอาจส่งผลให้เช็ดน้ำยาออกไม่ทันหลังจากน้ำยาเซ็ทตัวครับ

  4. ไม่ควรให้น้ำยาเคลือบกระจกไปโดนชิ้นส่วนพลาสติก สีรถ ขอบยาง โดยเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวเกิดความเสียหายหรือเป็นรอยด่างได้ หากเผลอทำน้ำยาเคลือบไปโดนชิ้นส่วนดังกล่าว ให้รีบนำผ้าชุบน้ำหมาดมาเช็ดออกโดยเร็วที่สุดครับ 
วิธีการเคลือบกระจกรถยนต์
  1. ผมจะใช้น้ำยาเคลือบกระจก WIBWUB X-Glass Shield ในการเคลือบกระจกนะครับ แต่ก่อนที่จะทำการเคลือบนั้น ให้เช็ดทำความสะอาดกระจกบานที่จะเคลือบให้สะอาดเรียบร้อยก่อน

  2. จากนั้นให้หยดน้ำยาเคลือบกระจก WIBWUB X-Glass Shield ลงบนฟองน้ำให้ทั่ว และนำฟองน้ำทาลงบนผิวกระจกไปทีละแนว ทั้งแนวตั้งและแนวนอน (แบบตารางหมากรุก) แล้วรอให้น้ำยาเซ็ทตัว 1 นาที 

  3. เมื่อน้ำยาเคลือบกระจกเซ็ทตัวแล้ว ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำบิดหมาดๆ ไปเช็ดน้ำยาเคลือบกระจกส่วนเกินออกจนหมด และตามเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกรอบหนึ่งเพื่อเก็บงานครับ

 
เพียงเท่านี้รถของเราก็ได้เคลือบกระจกเรียบร้อยแล้วนะครับ จะทำให้การดูแลกระจกหลังจากนี้เป็นเรื่องง่าย และเพิ่มความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น โดยให้ทำวิธีการเคลือบกระจกแบบนี้ไปทีละส่วนจนทั่วทั้งคันได้เลยครับ 

ส่วนใครที่เคยมองว่าการเคลือบกระจกนั้นเป็นเรื่องไกลตัว มีขั้นตอนยุ่งยาก ไม่สามารถทำเองได้ ตอนนี้ต้องลองกลับมาคิดดูใหม่แล้วนะครับ เพราะทางแบรนด์ WIBWUB ได้คำนึงถึงคนรักรถ จึงออกแบบน้ำยาเคลือบกระจกให้มีการใช้งานง่าย พร้อมกับมีประสิทธิภาพความคงทนของน้ำยาเคลือบกระจกให้มีการใช้งานได้นาน 2-3 เดือน ตรงตามความเหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทยโดยเฉพาะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ






Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้