รถโดนขี้นก ควรทำยังไง มีวิธีป้องกันยังไงบ้าง

Last updated: 19 ต.ค. 2566  |  690 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถโดนขี้นก ควรทำยังไง มีวิธีป้องกันยังไงบ้าง

รถโดนขี้นก ควรทำยังไง

มีวิธีป้องกันยังไงบ้าง ?

     ปัญหานกขี้ใส่รถ เป็นปัญหาของคนใช้รถมักเจออยู่เป็นประจำ จะหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็น สำหรับบางคนเพิ่งล้างรถมาได้ไม่นานก็โดนทิ้งระเบิดใส่ทันที แต่จะปล่อยคราบขี้นกไว้แบบนั้น คงไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆ เพราะขี้นกมีฤทธิ์เป็นกรดสูงมาก หากปล่อยไว้นานๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อ “ชั้นแล็คเกอร์” หรือ ”ชั้นสีรถ” ได้เลย แย่ที่สุดอาจต้องทำสีใหม่กันเลยทีเดียวครับ 

เบื้องต้นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า 
ว่า “ทำไมขี้นกตกใส่รถมันน่ากลัวและดูรุนแรง“ กันครับ

ถ้าเราเจาะลึกลงไปในของเสียของขี้นกนั้น จะประกอบไปด้วยกรดยูริก ซึ่งกรดยูริกที่ว่านี้จะมีความเข้มข้นสูง มีค่าความเป็นกรดอยู่ที่ประมาณ 3-4 pH (ในขณะที่น้ำมีค่า pH เท่ากับ 7)

“ค่า pH” หมายถึง อัตราส่วนกรดพื้นฐานของสาร ซึ่งจะแบ่งการวัดค่า pH เป็นระดับตั้งแต่ 0-14 ที่จะแสดงว่าตัวไหนเป็นด่าง (ซึ่งค่า pH จะสูงมาก) หรือเป็นกรด (ค่า pH ต่ำ) ระดับ 7 คือค่าตรงกลางทำให้ของเหล่านั้นจะมีสภาพเป็นกลาง และอะไรก็ตามที่น้อยกว่านั้นจะมีความเป็นกรด ในขณะที่อะไรก็ตามที่อยู่เหนือระดับ 7 จะมีสภาพเป็นด่างครับ

     ดังนั้นทำให้รู้ได้เลยว่าขี้นกที่เราเห็นนั้น มีความเป็นกรดในระดับเข้มข้นเลยทีเดียว ที่สามารถกัดกร่อนชั้นแล็คเกอร์หรือชั้นสีให้เกิดความเสียหายได้ภายในไม่กี่นาที ยิ่งตำแหน่งที่โดนขี้นกเป็นพื้นผิวในแนวราบ เช่น ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย หลังคา ถือเป็นพื้นที่ที่กักเก็บขี้นกไว้ได้นาน ไม่มีการไหลออก ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าส่วนอื่นๆ

วิธีแก้ไขเมื่อรถโดนขี้นก 

  1. ล้างทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด
    ในขั้นตอนนี้สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ 
           1.1) โดนนกขี้ใส่รถทันทีที่เห็น
         ถ้าเป็นแบบนี้แนะนำให้ใช้น้ำสะอาดล้างออกทันที หรือใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำเช็ดออกจดหมดและเช็ดให้แห้ง
           1.2) โดนนกขี้ไส่รถสักพักจนขี้นกแห้งแล้ว 
         ถ้าเป็นแบบนี้แนะนำให้ใช้กระดาษทิชชู่ชุบน้ำจนกระดาษทิชชู่ชุ่มน้ำ จากนั้นเอาไปโปะทับขี้นกตามจุดต่างๆ เพื่อทำให้ขี้นกมีความอ่อนตัวลง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นให้ใช้วิธีหยิบขี้นกออก (ไม่แนะนำให้เช็ดหรือถูขี้นกที่แห้งแล้วออกนะครับ เพราะจะทำให้เกิดรอยขนแมวหรือรอยขีดข่วนบนผิวรถได้ครับ) หรือใครจะใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำแทนกระดาษทิชชู่ก็ได้เหมือนกันนะครับ

  2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์
    (WIBWUB APC CAR)

         ในน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์จะมีค่า pH balanced ไม่เป็นอันตรายต่อพื้นผิว มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด ใช้ทำความสะอาดขี้นกได้ โดยเฉพาะตอนที่ขี้นกแห้งไปแล้ว โดยน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์จะช่วยละลายขี้นกที่แห้งแล้ว และยังช่วยขจัดคราบด้วยการเช็ดหรือล้างน้ำได้ง่ายครับ



  3. ใช้น้ำยาล้างรถแบบไม่ใช้น้ำ
    (WIBWUB Waterless)

         เป็นน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้เก็บคราบฝุ่นและคราบทั่วๆไปบนสีรถยนต์แบบไม่ใช้น้ำ เป็นเทคโนโลยี Polymer แบบเข้มข้น ทำให้มีความลื่นสูงขณะเช็ดเก็บคราบ โดยสามารถใช้เช็ดเก็บคราบขี้นกได้และให้ความเงาใสหลังใช้งาน ไม่ทิ้งคราบหลังใช้งาน



  4. สเปรย์ทำความสะอาดรถยนต์
    (WIBWUB Mind)

         WIBWUB Mind Quick Detailer เป็นน้ำยาที่ผลิตขึ้นเพื่อเน้นการทำความสะอาดเป็นหลัก โดยน้ำยาสามารถทำให้ขี้นกอ่อนตัวได้และตามเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ ซึ่งข้อดีของการใช้ Detailer Spray ก็คือไม่เป็นอันตรายต่อสีรถหรือการเคลือบแว็กซ์ของรถเรา ด้วยเทคโนโลยี Polymer และ SiO2 Infused จะทำให้ลื่นมากขณะเช็ด ทำให้ไม่เกิดรอย และเคลือบบำรุงเซรามิคไปในตัวครับ



     เมื่อแก้ไขตามวิธีการดังกล่าวแล้ว พบว่ามีรอยขี้นกอยู่ แสดงว่ารอยขี้นกนั้นมีการทิ้งระยะเวลานานเกินไป ซึ่งคราบขี้นกอาจซึมลงสู่ชั้นแล็คเกอร์หรือชั้นสีเป็นที่เรียบร้อย สังเกตได้คือจะมีรอยพองๆ เป็นคราบที่สีรถ

     อาจต้องนำรถเข้าไปแก้ไขที่ศูนย์บริการคาร์แคร์ที่ได้มาตรฐานและมีความชำนาญ เพื่อขัดสีลบรอยขี้นกออก ทั้งนี้ความยากง่ายในการขัดลบรอยขี้นกออก ขึ้นอยู่ว่ารอยนั้นซึมลงไประดับไหน ถ้ายังอยู่ในชั้นแล็คเกอร์สามารถขัดเก็บรอยออกได้ด้วยเครื่องขัดสี แต่ถ้ารอยนั้นอยู่ในชั้นสีรถ อาจต้องใช้กระดาษทรายในการขัดเก็บรอย และสิ่งที่ตามมาคือสีรถบริเวณนั้นจะบางลงแน่นอนครับ

วิธีป้องกันคราบขี้นกไม่ให้ทำลายชั้นสี
  1. เคลือบสี
         วิธีนี้จะช่วยเพิ่มชั้นฟิล์มให้แก่ผิวรถ ไม่ทำให้ขี้นกสัมผัสกับชั้นแล็คเกอร์โดยตรง ยิ่งน้ำยาเคลือบสีตัวไหนมีคุณสมบัติไล่น้ำแบบ Hydrophobic การไล่น้ำแบบใบบัว (WIBWUB Graphene Sealant) จะช่วยชะลอให้ขี้นกไม่ซึมลงสู่ชั้นสีและเช็ดเก็บคราบขี้ออกได้อย่างง่ายดาย ใช้เวลาในการเคลือบไม่นาน สามารถทำเองได้ที่บ้าน และทำได้บ่อยตามความต้องการ มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงจนเกินไปครับ

  2. เคลือบแก้ว/เคลือบเซรามิก
         วิธีนี้จะเป็นการสร้างชั้นเคลือบผิวบนชั้นแล็คเกอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องความแข็งและลดการยึดเกาะ จะช่วยชะลอไม่ให้ขี้นกซึมลงชั้นแล็คเกอร์ เนื่องจากมีชั้นเซรามิกเป็นเสมือนเกราะป้องกันสีรถไว้ครับ แต่ก็แรกมาด้วยราคาค่อนข้างสูงและต้องมีการเข้าบำรุงชั้นเคลือบเซรามิกตามระยะเวลาที่ศูนย์ให้บริการกำหนด โดยใช้เวลาในการเคลือบเซรามิก 1 - 2 วัน

  3. ติดฟิล์มใสกันรอย
         การติดตั้งฟิล์มกันรอยรถยนต์ นอกจากจะช่วยป้องกันสะเก็ดหินและรอยขีดข่วนต่างๆ แล้ว ยังช่วยปกป้องสีรถจากคราบขี้นกได้ 100% เนื่องจากฟิล์มใสกันรอยนั้น ผลิตจากเทอร์โมพลาสติกยูรีเทน ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทหนึ่งที่มีความหนา ความเหนียว และความทนทาน ทำให้สามารถปกป้องสีรถจากกรดของขี้นกได้

         โดยคราบขี้นกไม่สามารถซึมผ่านชั้นฟิล์มมาถึงชั้นแล็กเกอร์ได้และช่วยป้องกันให้สีรถดูใหม่อยู่เสมอ แต่การติดฟิล์มใสกันรอยนั้น มีราคาที่สูงมากและต้องลอกฟิล์มออกเมื่อหมดอายุการใช้งาน เราควรเลือกร้านติดตั้งที่มีมาตรฐาน ซึ่งใช้เวลาในการติดตั้ง 3 - 5 วันครับ

     สุดท้ายหวังว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านจะได้แนวทางการแก้ไขและวิธีป้องกันคราบขี้นก ที่คนใช้รถทุกคนได้เจอไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของตัวเองกันนะครับ



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้